อันตรายจาก “ทรานซามิน” ยาแก้ฝ้า ที่ไม่ใช่ยาแก้ฝ้า

หลายคนที่เป็น “ฝ้า” คงเคยใช้ทรานซามินในการแก้ฝ้ามาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นหมอจ่ายให้ก็ดี หรือหาซื้อเองตามร้านขายยาก็ดี วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก “ทรานซามิน” กัน ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรในการแก้ฝ้า

ข้อมูลเบื้องต้นของ “ทรานซามิน”

ทรานซามิน (Transamin®) เป็นชื่อการค้าของยา Tranexamic Acid ซึ่งมีฤทธิ์ในการห้ามเลือด ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นยาสำหรับรักษาผู้ป่วยโรคเลือดไหลหยุดยาก หรือเลือดออกมากผิดปกติ เช่น การผ่าตัดใหญ่ ประจำเดือนไหลมากผิดปกติ เป็นต้น

ทรานซามิน ยาห้ามเลือด ที่เอามาแก้ฝ้าซะงั้น

ผลข้างเคียงของ “ทรานซามิน” คือทำให้ “ฝ้า” จางลงจริงหรือ?

หมอชาวญี่ปุ่น ได้ให้ยาทรานซามินกับคนไข้เพื่อห้ามเลือด และได้สังเกตุพบว่าผู้ที่ได้รับยามีผิวพรรณกระจ่างใสขึ้น ฝ้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อทดลองให้ผู้ที่มีปัญหา “ฝ้า” ทานทรานซามิน พบว่าส่วนใหญ่ “ฝ้า” จางลง แต่ก็มีอยู่จำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ผลเลย นอกจากนี้ยังพบผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว รวมถึงไม่สามารถการันตีผลเสียในระยะยาวได้

การทดสอบ “ทรานซามิน” ผลเสียต่อร่างกาย

การทดสอบหลักๆ จะมาจากประเทศญี่ปุ่น มีการให้ผู้ทดลองทานทรานซามินติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน แล้วมาตรวจร่างกายตามปรกติ

ผลปรากฎว่า ไม่มีความแตกต่างระหว่างคนที่ทานทรานซามินและไม่ได้ทาน คือไม่พบผลเสียใดๆนั่นเอง

ซึ่งการทดลองทั้งหมดที่มีอยู่ตอนนี้ เป็นเพียงแค่การทดลองในระยะเวลาสั้นๆ ไม่สามารถการันตีความปลอดภัยในระยะยาวได้เลย

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ “ทรานซามิน” เป็นประจำ

• การมองเห็นสีผิดปกติหรือผิดเพี้ยน
• ทำให้เกิดอาการความดันต่ำ
• เกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด เนื่องจากทรานซามินทำให้เลือดแข็งตัว
• อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวและภาวะไตล้มเหลว ในกรณีที่ใช้ร่วมกับยาคุมกำเนิด

ทรานซามินจัดเป็นยาที่มีความจำเพาะเจาะจงในการใช้ ดังนั้นต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์เท่านั้น ไม่แนะนำให้ซื้อทานเอง